![รักษาโรคราสนิมในถั่วและราน้ำค้างในฟักทองหายจริงด้วยยาตัวนี้](https://i.ytimg.com/vi/8RnRia-Pbd8/hqdefault.jpg)
เนื้อหา
- ระบุและรักษาโรคราน้ำค้างในฟักทอง
- ภาพความเสียหายลักษณะ
- การควบคุมทางชีวภาพของโรคราน้ำค้าง
- โซดากลายเป็นยาฆ่าเชื้อราตามธรรมชาติ
- เคล็ดลับ & เทคนิค
ระบุและรักษาโรคราน้ำค้างในฟักทอง
หนึ่งในโรคที่เกิดจากเชื้อราที่กลัวมากที่สุดไม่ได้ช่วยฟักทอง โรคราน้ำค้างเป็นภัยคุกคามที่แพร่หลายต่อสุขภาพของพืช เราอธิบายวิธีการรับรู้อาการ มีวิธีการควบคุมที่ไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศมากมาย
ภาพความเสียหายลักษณะ
เชื้อโรคของโรคราน้ำค้างจำศีลในดินหรือในเรือนเล็ก ๆ ของพืช แม้กระทั่งวัชพืชสปอร์เห็ดก็ยังคงผ่านฤดูหนาว ในฤดูใบไม้ผลิเซลล์ปรสิตสามารถถูกพัดพาไปตามลมและแมลงไปยังพืชที่เป็นโฮสต์
หากอุณหภูมิผันผวนที่ 20 องศาเซลเซียสฝนที่ตกลงมาง่าย ๆ ก็เพียงพอแล้วและการแพร่กระจายของระเบิดก็เริ่มต้นขึ้น สปอร์ลอยไปตามใบไม้เปียกเพื่อใช้การบาดเจ็บที่น้อยที่สุดในการเข้าถึงพืช
การควบคุมทางชีวภาพของโรคราน้ำค้าง
การเพาะปลูกฟักทองห้ามการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผลไม้มีไว้สำหรับการบริโภค ชุมชนขนาดใหญ่ของชาวสวนงานอดิเรกที่ทะเยอทะยานได้รวบรวมมาตรการควบคุมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน:
ยิ่งต้นฟักทองแข็งแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งต้านทานโรคราน้ำค้างได้ดีเท่านั้น ตลอดทั้งฤดูกาลเสริมสร้างวัฒนธรรมฟักทองของคุณด้วยสารสกัดจากตับซึ่งในเวลาเดียวกันจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของสปอร์ของเชื้อรา
โซดากลายเป็นยาฆ่าเชื้อราตามธรรมชาติ
เพื่อที่จะหยุดโรคราน้ำค้างในฟักทอง, การเยียวยาที่บ้านดังต่อไปนี้ได้สร้างชื่อให้ตัวเองในหมู่ชาวสวนงานอดิเรกที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม:
โซดาช้อนโต๊ะที่เรียกว่าโซดาจะถูกละลายในน้ำ 4 ลิตร เพิ่มสบู่เต้าหู้ 15 มิลลิลิตรและน้ำมันพืช 15 ถึง 20 มิลลิลิตร บรรจุด้วยเครื่องพ่นสารเคมีด้วยมือแจกจ่ายวิธีแก้ปัญหาให้กับต้นฟักทองที่ได้รับผลกระทบ
เคล็ดลับ & เทคนิค
แป้งหินพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคราน้ำค้าง หากส่วนของพืชที่ถูกรบกวนจากฟักทองมีผงเป็นประจำจะทำให้สปอร์ของเชื้อราหายไปไม่ช้าก็เร็ว